จ.ส.อ.วรากร นิติศักดิ์ ผู้เขียน
ผู้เขียนเคยได้ไปรับการอบรมวิชาการที่กองวัณโรค กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัด สระบุรี เมื่อประมาณปี 44 โดยมีอาจารย์นายแพทย์ มงคล อังคศรีทองกุล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดการอบรมในครั้งนี้ครับ กระผมได้นำประโยชน์ในการอบรมในครั้งนี้ได้นำมาพัฒนาในการทำงานจนถึงปัจจุบัน กระผมจึงนำเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาเล่าให้ฟัง อาจจะนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้างกับบุคลากรทางการแพทย์ รพ.รร.จปร.นะครับเชื้อวัณโรค ( Mycobacterium tuberculosis )
Robert Koch เป็นคนแรกที่พิสูจน์และแยกเชื้อวัณโรค เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1882 รูปร่างเป็นแท่ง ( Rod shape ) ไม่มี( Capsule )ไม่มี ( spore ) เชื้อไม่มีการเคลื่อนที่ เป็นเชื้อที่ต้องการ ออกซิเจนในการเจริญเติบโต
การแพร่กระจายและการเกิดโรค
สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง เช่น ทางเดินหายใจ ทางผิวหนัง และทางเดินอาหาร แต่ทางเดินหายใจเป็นทางที่เชื้อเข้าสู่ร่างกายที่สำคัญที่สุด เมื่อผู้ป่วย ไอ จาม เชื้อจะออกมากับละออง เสมหะหรือน้ำลายนั้น และทำให้เชื้อกระจายในอากาศ ส่วนในห้องที่ทึบอับแสง เชื้อวัณโรคจะมีชีวิตอยู่ได้ถึง 1 สัปดาห์ ถ้าเสมหะที่มีเชื้อลงสู่พื้นที่ไม่มีแสงแดดส่อง เชื้ออาจอยู่ได้ในเสมหะแห้งได้นานถึง 6 เดือน วัณโรคเป็นโรคที่ติดต่ดเรื้อรังทำให้มีการอักเสบในปอด ซึ่งในผู้ใหญ่มักจะพบส่วนใหญ่ที่ปอด ในเด็กอาจเป็นที่บริเวณอื่นร่วมด้วย เช่น ต่อมน้ำเหลือง เยื่อหุ้มสมอง กระดูก
อาการของวัณโรค
ผู้ติดเชื้อวัณโรคปอดมักจะค่อย ๆ ป่วยด้วยอาการของวัณโรคปอดดังต่อไปนี้
* มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และมีน้ำหนักลด
* อาจมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หรือเป็นไข้ต่ำ ๆ ตอนบ่าย มีเหงื่อออกตอนกลางคืน
* มีอาการไอ โดยระยะแรก ๆ ไอแห้ง ๆ มีเสมหะ หรือไอเป็นแรมปี
* ผู้ป่วยอาจรู้สึกแน่นหรือเจ็บหน้าอกโดยที่ไม่มีอาการไอ
* ในรายที่เป็นมาก อาจจะมีอาการหอบหรือไอเป็นเลือดก้อนแดง ๆ หรือดำ ๆ
* ในรายที่เป็นน้อย ๆ อาจไม่มีอาการ และมักตรวจพบโดยเห็นจุดในปอดบนภาพถ่ายเอกซเรย์
* ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเป็นไข้นานเป็นแรมเดือน โดยไม่รู้สาเหตุ
* ในกรณีที่เกิดในเด็ก อาการมักจะรุนแรงกว่าผู้ใหญ่ เพราะเด็กมีภูมิคุ้มกันต่ำ
การเก็บเสมหะ
- สถานที่เก็บ ควรเป็นที่โล่งแจ้งมีแสงแดดส่องถึงถ้าเก็บภานในอาคารต้องมีอากาศที่ถ่ายเท ไม่อับ
- ตลับที่ใช้เก็บ ควรเป็นพลาสติกมีปากกว้าง มีฝาเกลียวปิดให้สนิท
- ผู้ป่วยตื่นขึ้นมาแล้วให้ผู้ป่วย ไอ ขาก ก่อนทำธุระอื่น
- ลักษณะเสมหะควรเป็นเมือก เป็นยวง ขุ่นข้น มีสีปนเหลืองหรือปนเขียว ไม่ใช้น้ำลาย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- ตากแห้ง แล้วนำไป Fix ด้วยไฟ
- แล้วนำไปย้อมด้วยวิธี Kinyoun staining
- เมื่อย้อมสีเสร็จแล้ว ดูด้วยกล้องจุลทรรศน์
การรายงานผล
จำนวนที่เห็น การรายงาน จำนวน fields ที่ดู
0 bacilli/100 oil fields No AFB seen 200
1-9 bacilli/100 oil fields 1-9 AFB per 100 fields 100
10-99 bacilli /100 fields AFB 1+ 100
1-9 bacilli / oil fields AFB 2+ 50
>100 bacilli / oil fields AFB 3+ 20